วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ปรากฎการณ์ธรรมชาติ

ปรากฏการณ์ คืออะไร

          ปรากฏการณ์ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นและสังเกตได้

 ธรรมชาติ คืออะไร

          คำว่า ธรรมชาติ ใช้สำหรับบรรยายทุกสิ่งบน โลก ที่ไม่ได้ถูกสร้างโดยมนุษย์ อาทิเช่น มนุษย์ สัตว์ ภูเขา แม่น้ำ ต้นไม้ หรือฝน เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
          ธรรมชาติในอีกความหมายหนึ่งคือ สิ่งที่มนุษย์กระทำขึ้นโดยไม่รู้ตัวแล้วมนุษย์อีกคนหนึ่งแอบมองโดยไม่ได้ตั่งใจหรือตั่งใจ เช่น ธรรมชาติของคนที่โกรธจัดจะเป็นอีกแบบกับคนที่อารมณ์ดีซึ่งคนที่อารมณ์ดีจะหน้าดูกว่าคนที่อารมโกรธหรืออารมณ์ไม่ดี

 การเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ



          ในหลายๆ ด้านแล้ว กล่าวได้ว่าธรรมชาติและมนุษย์มีหลายอย่างที่ขัดแย้งกัน บางคนมองธรรมชาติว่าเป็นเพียงทรัพยากรธรรมชาติที่เอามาเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์เท่านั้น มนุษย์ตัดต้นไม้เพื่อนำไม้ไปเป็นเชื้อเพลิงหรือนำไปสร้างบ้าน หรือเพื่อนำที่ดินไปทำสวน ปลูกผัก หรือสร้างรถ และโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งปล่อยควันเสีย โดยเฉพาะในเมือง หรือการที่มนุษย์จับปลาอย่างมากมายโดยฆ่าทั้งปลาและทำอันตรายต่อสัตว์อื่นๆ ใต้น้ำ
          ในขณะที่บางคนเลือกที่จะไม่ทำร้ายธรรมชาติ เพราะพวกเขารู้สึกว่าธรรมชาติมีความจำเป็นต่อพวกเขา พวกเขาจึงพยายามทำสิ่งที่ไม่มีผลกระทบต่อธรรมชาติ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีผู้คนมากมาย ปัญหาธรรมชาติจึงเป็นปัญหาที่ร้ายแรง และกลายเป็นเรื่องการเมืองไปเสียแล้ว
มีบางคนคิดว่าอนาคตนี้มนุษย์จะไม่ต้องการธรรมชาติ และฉลาดพอที่จะสร้างสิ่งต่างๆ ทดแทนธรรมชาติได้ แต่อันที่จริงแล้ว มนุษย์เองก็เกิดจากธรรมชาติและธรรมชาติก็สร้างมนุษย์ มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่มีสมองอันชาญฉลาด มีความสามารถที่จะปกป้องธรรมชาติจากอันตราย และช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นได้ หากธรรมชาติเสื่อมโทรมลงไป มนุษย์อาจจะต้องอยู่อย่างลำบากมากขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราควรจะดูแลรักษาธรรมชาติ ธรรมชาติสามารถแสดงให้มนุษย์เห็นว่าจะทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างไร และมนุษย์ศึกษาธรรมชาติ เพื่อที่จะเข้าใจและแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง


 ผลกระทบจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ

          ปรากฏการณ์ธรรมชาติ คือ การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ทั้งในระยะยาวและระยะสั้น สภาพแวดล้อมของโลกเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ทั้งเป็นระบบและไม่เป็นระบบ เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา มันส่งผลกระทบต่อเรา ในธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง มีผลกระทบต่อเรารุนแรงมาก ยกตัวอย่างเรื่องสึนามิ การเกิดแผ่นดินไหวนั้นพยากรณ์ยากมาก เราจัดการสึนามิ โดยเอาระเบิดปรมาณูไปถล่มมันก็ไม่ได้ แต่ของพวกนี้ถ้ารู้ก่อนสิบนาที มีประโยชน์เยอะเลย รู้ก่อนสองชั่วโมง รักษาชีวิตคนได้เป็นหมื่น ดินฟ้าอากาศก็เช่นเดียวกัน

การป้องกันผลจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ

          ถ้าหากเราเฝ้าสังเกตุความเปลี่ยนแปลง จนทราบได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเกิดขึ้น ก็จะสามารถป้องกันและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที อย่างเช่นการวัดรังสีอัลตราไวโอเล็ตที่ขั้วโลกใต้ วัดอยู่ไม่กี่ปีก็พบว่า มีรูรั่วของชั้นโอโซน ที่ขั้วโลกใต้ สร้างให้เกิดความตื่นตัวในการลดการใช้สาร CFC มาจนถึงทุกวันนี้ แต่ถ้าไม่มีใครสังเกตเห็น ก็จะเกิดผลร้ายที่รุนแรงมากขึ้น 
บทความน่ารู้
บรรยากาศของโลก คือ อากาศที่ห้อหุ้มโลกของเราอยู่โดยรอบ โดยมีขอบเขตนับจากระดับน้ำทะเลขึ้นไปประมาณ 1000 กม. ที่บริเวณใกล้พื้นดินอากาศจะมีความหนาแน่นมากและความหนาแน่นของอากาศจะลดลงเมื่อสูงขึ้นไปจากระดับพื้นดิน
 ความสำคัญ
  • ช่วยปรับอุณหภูมิบนพื้นผิวโลกไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป เพื่อให้สิ่งมีชีวิตสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยปกติในช่วงกลางวันความร้อนจากดวงอาทิตย์จะถูกอากาศ ที่ห้อหุ้มโลกไว้บางส่วน ทำให้ร้อนอย่างช้าๆ
  • ช่วยป้องกันอันตรายจากรังสีและอนุภาคต่างๆ ที่มาจากนอกโลก

 องค์ประกอบบรรยากาศโลก

  1. ออกซิเจน เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ และมีปริมาณอันดับ 2 ในส่วนประกอบของบรรยากาศโลก คือมีประมาณร้อยละ 20.947 โดยปริมาตร
  2. ไนโตรเจน เป็นส่วนประกอบที่มีปริมาณอันดับ 1 ในส่วนประกอบของบรรยากาศของโลก มากมายถึงร้อยละ 78
  3. อาร์กอน เป็นส่วนประกอบของบรรยากาศโลกแค่ ร้อยละ 1

 การแบ่งชั้นบรรยากาศ

บรรยากาศแบ่งไม่ได้แบ่งเป็นชั้นที่มองเห็นได้ แต่จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์สามารถแบ่งชั้นบรรยากาศได้เป็น 5 ชั้น ดังนี้

 โทรโพสเฟียร์ (troposphere)

เป็นชั้นบรรยากาศที่อยู่สูงจากพื้นดินขึ้นไปประมาณ 15 กม. อุณหภูมิจะค่อยๆลดลงตามระดับความสูง และเป็นชั้นที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศด้วย. มีปรากฏการณ์ที่สำคัญ คือ ลม เมฆ พายุ หิมะ

สตราโทสเฟียร์ (stratosphere)

เป็นชั้นที่มีเสถียรภาพต่ำสุด มีความสูงตั้งแต่ 15-50 กม. อุณหภูมิในระดับล่างของชั้นนี้จะคงที่จนถึงระดับความสูง 20 กม. จากนั้นอุณหภูมิจะค่อยๆสูงขึ้น ชั้นนี้เป็นชั้นที่เครื่องบินจะบินเพราะไม่มีความแปรปรวนของสภาพอากาศและเครื่องบินทั้งหมดที่บินในชั้นจะนี้จะเป็นเครื่องบินไอพ่น

 มีโซสเฟียร์ (mesosphere)

เป็นช่วงบรรยากาศที่อยู่สูงจากพื้นดินในช่วง 50-80 กม.อุณหภูมิลดลงตามระดับความสูง ตั้งแต่ชั้นแรกถึงชั้นนี้อากาศยังเป็นเนื้อเดียวกันอยู่ ทั้ง 3 ชั้นรวมทั้งหมดเรียกว่า โฮโมสเฟียร์ (homosphere) บรรยากาศมีก๊าซโอโซนอยู่มากซึ่งจะช่วยสกัดแสงอัลตร้า ไวโอเรต (UV) จาก ดวงอาทิตย์ไม่ให้มาถึงพื้นโลกมากเกินไป

เทอร์โมสเฟียร์ (thermosphere)

เป็นช่วงบรรยากาศที่มีระดับความสูง 80-500 กม. อุณหภูมิจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว (เนื่องจากใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น) จนถึงระดับประมาณ 100 กม. จากนั้นอัตราการสูงขึ้นของอุณหภูมิจะลดลง อุณหภูมิเฉลี่ยของชั้นนี้คือ 227-1727 องศาเซลเซียส ชั้นนี้ยังมีแก็สที่เป็นประจุไฟฟ้าเรียกว่า ไอออน สามารถสะท้อนคลื่นวิทยุบางชนิดได้ เราอาจเรียกชั้นนี้ว่า ไอโอโนสเฟียร์ (ionosphere) ก็ได้

เอกโซสเฟียร์ (exosphere)

เริ่มตั้งแต่ 500 กม.จากผิวโลกขึ้นไป บรรยากาศชั้นนี้เจือจางมากจนไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชั้นบรรยากาศ องค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นแก๊สไฮโดรเจนและฮีเลียม ไม่มีรอยต่อที่ชัดเจนระหว่างบรรยากาศกับอวกาศ มีอุณหภูมิประมาณ 726 องศาเซลเซียส ถึงแม้อุณหภูมิจะสูงแต่เนื่องจากอากาศเบาบางมาก จึงแทบไม่มีผลต่อยานอวกาศ บรรยากาศนี้ถือว่าไม่ดีนัก    

พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย



พระบาทสมเด็จจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
 
พระราชสมภพ : 18 ตุลาคม พ.ศ. 2347
สวรรคต          :   1 ตุลาคม พ.ศ. 2411

ผลงาน             : 1. การวางพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย
                              1.1 สถาปนาระบบเวลามาตรฐานขึ้นในประเทศไทย
                          2. ผลงานการวิจัย
                               2.1 การคำนวณหาตำแหน่งของดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์
                               2.2 การคำนวณว่าจะมีการเกิดอุปราคาได้หรือไม่
                               2.3 การคำนวณว่าการเกิดอุปราคาที่หว้ากอ จะเกิดสุริยุปราคาในลักษณะใด

               พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ประสูติแต่
สมเด็จพระศรี สุเรนทรามาตย์ ณ พระราชวังเดิม ธนบุรี เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2347 ขณะประสูติสมเด็จพระราชบิดาดำรง
พระยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร เมื่อพระราชบิดาขึ้นครองราชย์ เฉลิมพระบรมนามาภิไธยเป็น สมเด็จ
พระพุทธเลิศหล้านภาลัยแล้ว จึงเสด็จเข้ามาประทับในพระบรมหาราชวัง
              เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาเฉลิมพระยศเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎสมมติเทววงศ์
พงศ์อิศวรกษัตริย์ ขัตติยราชกุมาร  ทรงได้รับการศึกษาเยี่ยงขัติติยราชกุมารตั้งแต่เสด็จประทับ ณ พระราชวังเดิม  ทรงศึกษา
วิชาสำคัญต่าง ๆ เช่นการฝึกหัดอาวุธ วิชาคชกรรม และทรงสนพระทัยในการศึกษาภาษาต่างประเทศเป็นอย่างมาก
             ด้านพุทธศาสนา เมื่อพระชนมายุครบอุปสมบทก็ทรงผนวช และผนวชอยู่นานตลอดรัชการที่ 3 ระหว่างจำพรรษา ณ วัด
ราชาธิวาสได้ทรงศึกษาวิชาการทางพุทธศาสนา ทรงแตกฉานในรพระไตรปิฎกเพราะทรงเชี่ยวชาญภาษาบาลีเป็นอย่างยิ่ง ทรง
เห็นการปฏิบัติอันหย่อนยานของสงฆ์บางส่วนในสมัยนั้น จึงได้ทรงตั้งธรรมยุติกนิกายขึ้นเพื่อเป็นแบบอย่างแก่สงฆ์ ที่เคร่งครัด
การปฏิบัติต่อไป
              ในด้านวิชาการทั่วไป ทรงศึกษาวิชาโหราศาสตร์ภาษาละติน ภาษาอังกฤษ และความรู้ทั่วไปที่ถือกันว่าทันสมัย รวมทั้ง
ทรงสนพระทัย เหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นรอบบ้านเมืองของเราตลอดเวลา
              เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 3  เสด็จสวรรคต  บรรดาพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ เสนาบดี  และ
ข้าราชการผู้ใหญ่ทั้งปวง ได้พร้อมกันอัญเชิญ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 4
แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงดำรงสิริราชสมบัติเป็นเวลา 18 ปี จึงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411
              พระราชกรณียกิจต่าง ๆ นอกจากด้านการต่างประเทศ การพระศาสนา การทะนุบำรุงพัฒนาบ้านเมืองบำรุงศิลป
วัฒนธรรมแล้วยังทรงสนพระทัยด้านวิทยาการแผนใหม่อย่างยิ่ง ในสมัยของพระองค์ นับเป็นอรุณรุ่งแห่งการนับอารยะธรรม
ตะวันตก ด้วยทรงถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับปรุงกิจการบ้านเมืองให้ก้าวหน้าทันกันความเปลี่ยนแปลงในโลก ทรงสนับสนุนให้มี
การศึกษา ศิลปวิทยาแผนใหม่ทั้งหลายที่มีประโยชน์ต่อการสร้างความเจริญให้แก่ประเทศดังปรากฎว่ามีสิ้งริเริ่มใหม่ ๆ เกิดขึ้น
มากมายเช่น วิชาการต่อเรือใบ เรือกลไฟ เรือรบ การสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาผลิตเหรียญกษาปณ์ การฝึกหัดทหารและได้จัดซื้อ
อาวุธยุทโธปกรณ์อย่างยุโรป
VDO เรื่อง บทนำ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4


ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=kSf_962XvG0


ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=RZoHLgfKE7k
การบวก-ลบ เวกเตอร์
สมมติเรามีเวกเตอร์  และ  ที่มีขนาดและทิศทางดังรูป
xxxxxxxx
จะเรียกปลายที่มีลูกศรว่า “หัว” และเรียกอีกปลายที่ไม่มีลูกศรว่า “หาง
ถ้าต้องการรวม 2 เวกเตอร์นี้เข้าด้วยกัน นั่นคือหาผลลัพธ์ของ + เราสามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้
1. แบบหัวต่อหาง: เขียนเวกเตอร์  ก่อน  จากนั้นเอาหางของ  มาต่อที่หัวของ  ดังรูป
ผลลัพธ์ที่ได้คือเวกเตอร์ที่ลากจากหางของ  ไปสิ้นสุดที่หัวของ 
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
2. แบบหางต่อหาง: นำหางของทั้งสองเวกเตอร์มาต่อชนกัน แล้วสร้างรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน (แสดงด้วยเส้นประ
สีเทา) ผลลัพธ์ที่ได้คือเวกเตอร์ที่ลากจากจุดหางที่ต่อกัน ไปจนถึงมุมทะแยงตรงข้ามของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานนั้น
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
จะเห็นได้ว่า เวกเตอร์ผลลัพธ์ที่ได้จากทั้งสองวิธีนี้เท่ากัน โดยมีขนาดและทิศทางดังแสดงตามลูกศรสีแดง
สำหรับการลบกันของเวกเตอร์ จริงๆ แล้วก็คือการบวกด้วยเวกเตอร์ที่เป็นลบ เช่น -=+(-) จากนั้นก็ดำเนินการต่อด้วยวิธีการที่กล่าวไปแล้วข้างต้น
 xxxxxxxxxxxxx xxxxxx
xxxxxxxxxxxแปลงเวกเตอร์  เป็น -xxปปปxxxxxxxxxใช้วิธีหัวต่อหาง xxxxxxxปx ใช้วิธีหางต่อหาง

แบบฝึกหัด





การวัด
จะต้องประกอบด้วย
1. วิธีการวัดที่ถูกต้อง
2. เครื่องมือวัดที่เหมาะสม
3. ผู้วัดที่มีความรู้ความสามารถ
4. สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
การแสดงผลการวัด ต้องแสดงตัวเลขที่อ่านได้จากเครื่องมือวัดทุกตัวที่สามารถอ่านได้ และเพิ่มค่าที่ปริมาณหรือคาดเดาที่ตัวเลขสุดท้ายอีก 1 ตำแหน่ง
หน่วยการวัด
1. หน่วยฐานเอสไอ เป็นหน่วยมาตรฐานที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกใช้ เรียกว่า หน่วยระหว่างชาติ (International System of Units) หรือหน่วยเอสไอ มีทั้งหมด 7 หน่วย

2. หน่วยอนุพันธ์ เป็นหน่วยซึ่งมีหน่วยฐานหลายหน่วยมาเกี่ยวข้องกัน เช่น หน่วยของอัตราเร็วเป็น เมตรต่อวินาที ซึ่งมีเมตรและวินาที เป็นหน่วยฐาน หน่วยอนุพันธ์มีหลายหน่วยซึ่งมีชื่อและสัญลักษณ์ที่กำหนดขึ้นโดยเฉพาะ

คำอุปสรรคหมายถึง ตัวพหุคูณที่ใช้นำหน้าหน่วยต่างๆเพื่อทำหน้าที่ขยายหน่วยนั้นๆ

ความหมายและความสำคัญ

        ฟิสิกส์ (Physics) มาจากภาษากรีก ซึ่งหมายความว่าธรรมชาติ (nature) คือวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับมวลสารและพลังงานเพื่อนาไปอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สังเกตเห็นหรือแก้ปัญหาที่เร้นลับทางธรรมชาติ

    วิชาฟิสิกส์

        วิชาฟิสิกส์ที่นักเรียนจะได้เรียน จะเป็นความรู้ความเข้าใจที่เกิดขึ้น และสะสมกันมาในช่วงเวลา 400ปีซึ่งเป็นส่วนพื้นฐานของวิชาที่ได้จัดให้เป็นระบบ เพื่อให้เกิดความสะดวกต่อการเรียนรู้ และในที่สุดเรื่องต่าง ๆ ที่เรียนจะสัมพันธ์กันทุกเรื่อง การเรียนรู้ที่ดีจะต้องมีความเข้าใจหลักการของเรื่องนั้น ๆ จนสามารถนาหลักการไปประยุกต์ได้ การฝึกให้สามารถประยุกต์หลักการกับการแบบฝึกหัดหรือโจทย์ปัญหาเป็นส่วนสาคัญอย่างหนึ่งที่นักเรียนควรพยายามคิดด้วยตนเอง ซึ่งจะเป็นการฝึกคิดอย่างฟิสิกส์หรืออย่าง2

    เครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์หรือฟิสิกส์
    เครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์มีความจาเป็นดังนี้
    1. เครื่องมือวัดช่วยทาให้เราสามารถวัดปริมาณต่าง ๆ ที่ต้องการได้สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย
    2. เครื่องมือวัดทาให้เราสามารถวัดปริมาณต่าง ๆที่ประสาทการรับรู้ของมนุษย์ไม่สามารถตรวจ สอบได้โดยตรง
    3. งานต่าง ๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์หรือฟิสิกส์จาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยเครื่องมือเข้าช่วย

        การแสดงผลการวัด
    โดยทั่วไปเครื่องมือวัดจะแสดงผลการวัด 2 แบบ คือ
    1. แสดงผลการวัดแบบขีดสเกล เช่น ไม้บรรทัด , ไม้เมตร , สายวัด ฯลฯ
    2. แสดงผลการวัดแบบตัวเลข เช่น นาฬิกาจับเวลา , มิเตอร์รถยนต์ ฯลฯ